แฟน เพลงชาวไทยร่วมสร้างประวัติศาสตร์บันทึกเป็นตำนานด้วยสายตาของตัวเอง ในวันพฤหัสบดีที่ 10 กุมภาพันธ์ 2553 ณ อิมแพค อารีน่า เมืองทองธานี บัตรราคา 1,000 ,1,500 ,2,000 ,2,500 ,3,500 ,4,500 และบัตรวีไอพีเซ็ท 7,500 บาท**รวมกิฟท์เซ็ท, คอทเทล ,ที่จอดรถ และทางเข้าพิเศษ พร้อมด้วยโปรโมชั่นพิเศษซื้อบัตรตั้งแต่วันนี้ – 31 ม.ค. 54 อัพเกรดที่นั่งฟรี!! จอง บัตรและสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Call Center โทร. 0-2833-5555 หรือ บ.พีนาด้า โทร.0-2632-8040-1 เชคข้อมูลเพิ่มเติมที่ www.totelreservation.com
10 เพลงยอดเยี่ยมแห่งปี 2010
Rolling Stone Top 10 Singles of 2010
1. Runaway (คานเย่ เวสต์ feat. Pusha T)
ต้องเป็นอัจฉริยะแห่งความดำมืดที่สุด เพี้ยนแสนพิเศษเท่านั้น ถึงจะสามารถยกธงขาวยอมแพ้ขณะชูนิ้วกลางไปด้วยได้ และ คานเย่ เวสต์ ก็คืออัจฉริยะคนนั้น เพลง Runaway ทำออกมาเพื่อตอบโต้เหตุการณ์อื้อฉาวระหว่างเขากับ เทย์เลอร์ สวิฟท์ แต่มันมีอะไรมากกว่านั้น เพลงความยาว 9 นาทีกว่าๆ เกี่ยวกับความรักที่ล้มเหลว และชื่อเสียงที่เสียหาย คานเย่ สร้างบีตด้วยกลอง และเปียโน แล้วเขาก็ครวญท่อน "Let s have a toast for the douchebags" ปี 2010 ไม่มีเพลงไหนจะเยี่ยมเท่านี้อีกแล้ว และไม่ใช่แต่ตามวิทยุเท่านั้น แต่ทุกที่
2. Fuck You (ซี โล กรีน) ลำพังชื่อเพลงก็การันตีได้แล้วว่าได้รับ ความสนใจจากสาธารณชนเพียบ! แต่ ซี โล กรีน ไม่ได้สักแต่ร้องคำว่า Fuck you ออกมาเท่านั้น เพราะเขาร้องออกมาพร้อมกับอารมณ์ขัน และการวางท่าสุดๆ และแม้เนื้อร้องอาจจะเศร้าไปซะหน่อย แต่บีตสไตล์โมทาวน์ คือสีสัน เบิ้ลด้วยเนื้อร้องที่คร่ำครวญถึงความรักไม่สมหวัง ที่เท่สุดๆ
3. Soldier of Love (ชาเด) ไม่มีใครรู้เลยว่าระหว่างช่วงเวลาหลายปี ที่หายไปนั้น ชาเด ไปอยู่ไหน แต่สิ่งที่ Soldier of Love พิสูจน์ให้เราเห็นคือ เธอรู้ดีว่าจะกลับมาอย่างไรให้มันอลังการงานสร้าง เธอครวญเพลงเล่าอารมณ์ที่ปวดร้าว เคล้าคลอไปกับบีทที่ผสมระหว่างเสียงซินธ์หนักแน่นเงียบๆ และริฟฟ์ที่ฟังแล้วได้อารมณ์ชะมัด พูดง่ายๆ ว่าเพลงนี้เยี่ยมยอดราวกับเธอไม่เคยหายไปไหนนานเลย
4. Teenage Dream (เคที่ เพอร์รี่)
เพลงนี้ได้ แม็กซ์ มาร์ติน กับ ดร.ลุค มาช่วยกันแต่ง นี่คือเพลงให้ร้องตามที่ตลาด และติดหูสุดๆ แห่งปี 2010 และในส่วนของ "ความฝันวัยรุ่น" นั้น เคที่ เพอร์รี่ ก็ไม่ได้อมพะนำเลยสักนิด ด้วยเนื้อร้องที่บอกว่า "Let s go all the way tonight"
5. We Used to Wait (Arcade Fire) "ตอนนี้ชีวิตของเรากำลังเปลี่ยน แปลงอย่างรวดเร็ว" วิน บัคเลอร์ นักร้องนำของ Arcade Fire ครวญเพลงท่อนนี้เอาไว้ แต่เสียงร้องหวิวๆ ตามสไตล์ของเขา บวกกับดนตรีแบบออร์เคสตราร็อกของวง ยิ่งทำให้เพลงนี้ดีเลิศไปกันใหญ่
6. You Are Not Alone (มาวิส สเตเปิ้ลส์) เพลงสวดยุคโมเดิร์น แต่งโดย เจฟฟ์ ทวีดดี้ แห่งวง Wilco และร้องด้วยนำเสียงของความเป็นแม่ ที่ครั้งหนึ่งเคยบอกคุณว่าให้ "Respect Yourself"
7. White Sky (Vampire Weekend) สำเนียงกีตาร์กลิ่นอายแอฟริกัน บวกสีสันด้วยเสียงซินธ์ และคึกคักด้วยจังหวะแบบดิจิตอล ทำให้เราอดทึ่งไม่ได้กับซาวนด์ดนตรีที่วงหนุ่มๆ วงนี้ค้นพบว่า มันมีความเป็นไปได้มากขนาดไหน
8. Tightrope (จาเนลล์ โมเน feat. Big Boi) จาเนลล์ โมเน ซิสเตอร์จากอีกโลกหนึ่ง นำเสนอเพลงคึกคักที่เป็นส่วนผสมของ แค็บ คัลโลเวย์, ฮิพฮอพ, เจมส์ บราวน์ และอาร์ต-ป็อป แบบแปลกประหลาด
9. The Ghost Inside (Broken Bells) The Ghost Inside คือแทร็กที่เยี่ยมที่สุดที่ Gnarls Barkley ไม่เคยทำออกมา! ด้วยการร้องเสียงหลบ ทุ้มต่ำ และท่วงทำนองติดหูของ เจมส์ เมอร์เซอร์ บวกซาวนด์ดนตรีฟังก์เย็นๆ โดย ไบรอัน เบอร์ตัน (หรือ แดนเจอร์ เมาส์ แห่ง Gnarls Barkley)
10. Monster (คานเย่ เวสต์ feat. เจย์-ซี, ริค รอสส์, นิคกี้ มินาจ และ Bon Iver)
ใน ฮิพฮอพทรงพลังเพลงนี้ นิคกี้ มินาจ กลายเป็นตัวประกอบแห่งปี ด้วยการฟีเจอริ่งอันแสนน่าทึ่ง สลับเสียงร้องของเธอขึ้นลงไปมา เธอแร็พราวกับตัวเองเป็น เมอรีล สตรีฟ แห่งฮอลลีวู้ด ซึ่งแสดงว่า คานเย่ ต้องมีอารมณ์ขันเอามากๆ ถึงทำกับเธอแบบนี้ได้
ใน ฮิพฮอพทรงพลังเพลงนี้ นิคกี้ มินาจ กลายเป็นตัวประกอบแห่งปี ด้วยการฟีเจอริ่งอันแสนน่าทึ่ง สลับเสียงร้องของเธอขึ้นลงไปมา เธอแร็พราวกับตัวเองเป็น เมอรีล สตรีฟ แห่งฮอลลีวู้ด ซึ่งแสดงว่า คานเย่ ต้องมีอารมณ์ขันเอามากๆ ถึงทำกับเธอแบบนี้ได้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น